นาย อนุยุต อ้ายดวง
รหัสนักศึกษา 571799041
เอกภาษาญี่ปุ่น
SEC: AF
วันพุธที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2558
ศาลเจ้าจี้กงหน่ำพิ้งฮง
ศาลเจ้าจี้กงหน่ำพิ้งฮง
ศาลเจ้าจี้กงหน่ำพิ้งฮง หรือ ศาลเจ้าจี้กงนับว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอำเภอพานแห่งหนึ่งที่มีผู้คนนิยมเที่ยวกันมาก สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ได้ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2533 สมัยก่อนเป็นเพียงศาลเจ้าเล็ก ๆ ใช้ชื่อว่า ศาลเจ้าจี้กงหน่ำพิ้งเกาะ โดยคณะศิษยานุศิษย์ของพระอรหันต์จี้กง ได้เดินทางขึ้นมาถวายสักการะและสรงน้ำพระ เนื่องในเทศกาลสงกรานต์เป็นประจำทุกปี ต่อมาได้รับเทวธรรมชี้แนะจากพระอาจารย์จี้กง จึงได้ดำเนินการก่อสร้างสัณฑคารหน่ำพิ้งซื้อขึ้น เพื่อตั้งแท่นบูชาแผ่นป้ายบรรพชน และเพื่อเป็นที่พักสำหรับคณะศิษย์ที่เดินทางมาปฏิบัติธรรมยังคุณธรรมสถานแห่งนี้ พร้อมกันนั้นก็ได้จัดสร้างแท่นประดิษฐานเทวรูปเทวอาจารย์ชั้น 2 ของอาคารควบคู่ไปด้วย โดยพระอาจารย์จี้กงได้เมตตาประทาน นามให้ว่า จียิ้งเกาะ ดังต่อมาได้เข้าร่วมเป็นองค์กรสมาชิกนับเป็นลำดับที่ 69 ในเครือสมาคมสหมิตรการกุศล “ เต็กก่า” แห่งประเทศไทย ใช้ชื่อเป็นทางการว่า คุณธรรมสถานหน่ำพิ้งจียิ้งเกาะ พระรูปพระอรหันต์จี้กง ขนาดสูง 8.8 เมตร หล่อด้วยทองสำริด
ประวัติความเป็นมาของ จี้กง
ประวัติความเป็นมาของ จี้กง
ทุกวันที่ 3 เดือน 1 ของจีน ที่ฮ่องกง จะมีบางบ้านไหว้พระจี้กง จี้กง เป็นเจ้าองค์หนึ่งที่โดดเด่นด้วยความไม่เหมือนใครในชุดนักบวชเต๋าแต่ดูซอมซ่อ ปุปะ มือถือพัดขาดๆ อีกมืออาจถือขวดเหล้าหรือรองเท้าข้างหนึ่ง
ตามตำนานของสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ได้เล่าว่าจี้กงเป็นพระนักพรตในสมัยราชวงศ์ซ่งใต้ (พ.ศ.1670-1822) มีเอกลักษณ์นิสัยที่แปลกจากพระเจ้าทำไปคือดื่มสุรา สนุกสนานเฮฮา ไม่มีภาพของพระที่ควรสำรวมหรือสันโดดเลย แต่มีคุณสมบัติพิเศษตรงรักษาคนไข้ได้ระดับหมอเทวดา จึงชอบรักษาคนเจ็บ ช่วย เหลือคนจนและให้ทานคนหิว จี้กงมีประวัติว่าบิดาเป็นขุนนาง (ชื่อหลี่เมี่ยชุน)จนอายุมากเข้าวัยกลางคนก็ยังไม่มีบุตร สืบสกุล หลี่เมี่ยชุน เริ่มกังวลกลัวว่าแก่ตัวลง ไปจะไม่มีใครดูแลตนและภรรยา จึงไปไหว้เจ้าขอลูกกับศาลเจ้าที่ ตกกลางคืนภรรยาหลี่เมี่ยชุนฝันเห็นพระโพธิสัตว์ทรงชุดยาว พักตร์ยิ้มผ่องใส พระโพธิสัตว์เสด็จมาหานางพร้อมประทานดอกบัวหลาก สีแสนสวยงามในฝัน…พระโพธิสัตว์ตรัสแก่นางว่า… คำอธิษฐานของสามีเจ้าจะเป็นจริงเมื่อเจ้ากลืนดอกบัวสวรรค์นี้นางขอบคุณแล้วกลืนดอกบัวลงไปได้ อย่างอัศจรรย์ นางรู้สึกได้ถึงการเคลื่อนของดอกบัวขณะไหลเลื่อนในกายลงไปสู่กลางท้องนาง นางสะดุ้งตื่นทันทีต่อมานางก็ท้อง 10 เดือน ต่อมาได้คลอดเด็กชายหน้าตาน่ารักมากให้ชื่อเด็กนี้ว่า ซุยหยวน หลี่ซุยหยวนได้โตขึ้นมาท่ามกลางความรักและอบอุ่นแต่แปลกจัง เด็กน้อยฝักใฝ่ลัทธิเต๋ามาก อายุ 7 ขวบก็ขอบวชแล้วเรียนอ่านตำราทางเต๋าจนรู้แตกฉานเมื่ออายุได้ 14 ปี ต่อมาบิดาตาย หลังจากนั้น 2ปีมารดาก็เสียชีวิตจากไป หลี่ซุยหยวนจึงมุ่งไปทางเต๋าเต็มที่ด้วยการไปอยู่วัดเป็นนักพรตเต๋าที่เคร่ง ได้ฉายาว่า เต๋าจี้ิ เต๋าจี้คร่ำเคร่งใฝ่ศึกษา แถมเรียนรู้ไว้ ภายในชั่วไม่นานก็รอบ รู้หมดและเนื่องจากลัทธิเต๋าฝักใฝ่ใน การปรุงยา, การแสวงหาวิธีเป็นอมตะ จึงมีตำราทางยา, และวิธีการรักษาโรคประมาณหนึ่ง เต๋าจี้ที่เรียนรู้จนแตกฉานจึงสามารถรักษาคนป่วยได้ แล้วก็อุทิศตนเพื่อชาวบ้านเต็มที่แต่ในขณะเดียวกันก็มีเรื่องแปลกว่า เต๋าจี้เหมือนเริ่มเพี้ยน กินจุมากขึ้นมาก ดื่มสุรา ได้มาก และเริ่มติงต๊องและรักสันโดดมากขึ้นๆ แต่ชาวบ้านก็ยังนับถือเต๋าจี้มาก เพราะรักษาโรคเก่ง พร้อมเริ่มเรียก เต๋าจี้ว่า จี้กง
วันหนึ่งขณะจี้กงเดินออกจากวัด ท่านเกิดเห็น ชายคนหนึ่งกำลังจะผูกคอตายใต้ต้นไม้ ทำเงื่อนเชือกทุกอย่างเรียบ ร้อยหมดแล้ว เหลือเพียงชายนี้โดดลงมาเพื่อให้เชือกรัดคอ จี้กงเห็นแล้วก็ตะโกนเสียงดังสุดๆว่า…โอ้ย…บ้าแล้ว…ฉันอยากตาย…ปรากฏว่าชายที่กำลังจะผูกคอตายเอาเชือกออกจากคอ แล้ววิ่งมาหาจี้กง ถามอย่างเป็นห่วงว่า…เกิดอะไรขึ้นทำไมจึงอยากฆ่าตัวตาย จี้กงบอกว่าเพราะเราทำเงินที่ญาติโยมนำมาบริจาคหาย ชายนั้นก็บอกว่า เราพอจะยกสมบัติที่เรามีให้ท่าน จะช่วยให้ท่านหายอยากตายไปจี้กงถามชายคนนี้ว่า…อะไร…แล้วท่าน ล่ะ…อยากฆ่าตัวตายทำไมชายบอกว่า เราชื่อ ต๋งซิหง มีปัญหาว่าเราเป็นหนี้จึงขายลูกสาวไปเป็นทาสให้เศรษฐี หนี้ของเราเกิดจากการต้องนำเงินไปรักษาแม่ที่ป่วยหนัก บัดนี้แม่ก็ตายแล้ว เราก็พยายามทำงานรวบรวมเงินจะไปไถ่ตัวลูกสาว คาดไม่ถึงว่า บ้านเศรษฐีได้ย้ายออกไป ไม่มีใครทราบว่าไปไหน แล้วลูกสาวของเราก็ต้องเป็นทาสเขาตลอดไป แล้วระหว่างนี้เราก็ถูกขโมยเงินชีวิตที่รันทดอย่างนี้…เราไม่อยากอยู่เลย ตายเสียยังดีกว่า
จี้กงมองชายอย่างเมตตาแล้วบอกว่า”เราสัญญาว่า ท่านกับลูกจะต้องได้เจอกันในไม่ช้านี้”เหมือนมีอะไรดลใจให้เชื่อ ต๋งซิหงติดตามจี้กงไปยังอีกเมือง จี้กงบอกให้ต๋งซิหงนั่งคอยอยู่ใต้ต้นไม้หนึ่ง สั่งไว้ว่า ถ้ามีใครมาถามวันเดือนปีเกิดก็ให้บอกไปตามจริง แล้วก็ตรงไปยังบ้านใหญ่หลังหนึ่งที่บ้านหลังใหญ่ จี้กงตบประตูเรียกคนในบ้านมาเปิด แล้วถามว่าที่นี้มีมารดาของเจ้าของบ้านกำลังป่วยหนักใช่หรือไม่ เรารักษาได้ ก็พอดีเจ้าของบ้านที่ออกไปนอกบ้านมา ถึงพอดี เจ้าของบ้านซึ่งแซ่อิ๋วบอกจี้กงว่าใช่แม่เราป่วย และนี่เราก็ได้ซินแสมารักษาแล้ว ว่าแล้วก็พาซินแสเข้าบ้านไปรักษาแม่ปรากฏว่า ซินแสที่พามาเมื่อเห็นมารดาผู้ป่วย จับชีพจรแล้วก็ส่ายศีรษะว่า หมดหวัง ไม่มีทางรักษาแล้วก็ขอลาไปชายเศรษฐีแซ่อิ๋วโศกเศร้ากลุ้มใจ นั่งเอามือกุมหัวแล้วก็คิดได้รีบเดินออกมาที่หน้าประตู พบจี้กงกำลังอร่อยอยู่กับอาหารที่คนในบ้านเอามาให้ เศรษฐีไหว้ จี้กงแล้วขอร้องให้เข้าไปช่วยตรวจอาการมารดาภายในเวลาไม่กี่นาที จี้กงก็สามารถจัดการให้ผู้ป่วยอาการดีขึ้นจากโคม่าในชั่วเวลาเพียงครู่เดียว โดยที่เศรษฐีแซ่อิ๋ว ก็มองไม่ออกว่าจี้กงทำอะไรบ้างแต่เขาก็ดีใจมากที่แม่หายป่วย แล้วก็สารภาพต่อ ว่า… เขามีลูกชายที่กำลังป่วยมากเช่นกัน อยากจะขอให้จี้กงช่วยดูแลและตรวจรักษาจี้กงดูอาการลูกชายแล้วส่ายหัว ปากบอกว่า คนนี้รักษายากเพราะเป็นมากอาการอย่างนี้ต้องให้ดื่มน้ำตาของคน 2 คน ที่เกิดในวันเดือนปีเกิดนี้ว่าแล้วจี้กงก็บอก ไป มันคือวันเกิดของต๋งซิหงและลูกสาวเศรษฐีอิ๋วส่งคนไปหาเจ้าของวันเกิดทันที การหาตัวต๋งซิหงนั้นไม่ยากเพราะจี้กงบอกให้ว่า ชายนี้คือใครนั่งรออยู่ที่ไหน ส่วนลูกสาวต๋งซิหงก็ยิ่งไม่ยากใหญ่ เพราะนางยืนอยู่ตรงนั้น นางยกมือบอกว่านางเกิด วันนี้ตามวันเดือนปีที่จี้กงบอกเมื่อต๋งซิหงถูกพามาที่ห้องคนเจ็บ เขาคาดไม่ถึงว่าจะได้พบลูกสาว ลูกสาว คิด ไม่ถึงเช่นกันว่าจะได้พบพ่อ ทั้งสองโผ เข้าหากันพร้อมด้วยน้ำตาแห่งความปีติยินดี ที่ไหลอาบแก้มทั้งสอง จี้กงรีบหยิบยาขวด หนึ่งออกจากกระเป๋า เอาขวดรองน้ำตาแห่งความยินดีของสองพ่อลูก แล้วกรอกยาใส่ปากคนเจ็บ อัศจรรย์นัก…คนเจ็บรู้สึกตัวในชั่วไม่นานนิทานเรื่องนี้จึงจบแฮปปี้แบบดับเบิ้ล แฮปปี้ ครอบครัวเศรษฐีอิ๋วก็แฮปปี้ ครอบ-ครัวต๋งซิหงก็แฮปปี้ ต๋งซิหงได้ตัวลูกสาวกลับไปอยู่ด้วยแม้จะไม่มีเงินมาไถ่ตัว แต่เศรษฐีอิ๋วยินดียกหนี้ให้เพื่อตอบแทนคุณนี่คือตัวอย่างตำนานหนึ่ง การช่วยเหลือคนอย่างมีอภินิหารของจี้กงพระเพี้ยนหรือเจ้าแปลกๆ ที่ใครๆ ก็จำได้ติดตาเมื่อเห็นภาพหรือรูปปั้นของเจ้าจี้กง
วัดพระธาตุจอมแว่
วัดพระธาตุจอมแว่

วัดพระธาตุดอยจอมแว่
วัดพระธาตุจอมแว่ หรือชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า วัดพระธาตุดอยจอมแว่ จัดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอำเภอพาน ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวอำเภอพานแห่งนี้ตั้งอยู่บนภูเขาจอมแว่ ในเขตตำบลเมืองพาน อำเภอพาน ห่างจากตัวอำเภอไปทางด้านทิศเหนือประมาณ 3 กิโลเมตร เป็นพระธาตุที่ชาวอำเภอพาน และอำเภอใกล้เคียงนับถือว่าเป็น พระธาตุศักดิ์สิทธิ์ มีงานนมัสการพระธาตุทุกปีในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 ทางเหนือ หรือเดือน 9 ทางใต้
สถานที่ท่องเที่ยวอำเภอพานแห่งนี้เป็นวัดที่ประดิษฐานพระพุทธจอมเกศมหามังคลานุสรณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นพระพุทธรูปยืนขนาดใหญ่ สูง 60 ฟุต ตั้งเด่นอยู่บนยอดดอย

พระธาตุดอยจอมแว่ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอำเภอพาน แห่งหนึ่งที่สำคัญ ตั้งอยู่ที่ วัดพระธาตุดอยจอมแว่ ต.เมืองพาน อ.พาน จ.เชียงราย ปี พ.ศ. 2119 ได้รับอนุญาตให้เป็นวัด ปี พ.ศ. 2380 เจ้าพญาหาญพ่อเมือง คนแรกของเมืองพาน ได้ร่วมกับคณะสงค์ และประชาชนสร้างอุโบสถหลังแรกขึ้น
ตามตำนานของสถานที่ท่องเที่ยวอำเภอพานแห่งนี้ได้กล่าวไว้ว่า พระธาตุจอมแว่ได้สร้างขึ้นโดยพญางำเมือง เจ้าเมืองภูกามยาว (พะเยา) ในราว จ.ศ. ๖๕๖ (พ.ศ. ๑๘๓๗) โดยที่พระองค์ได้เสด็จขึ้นดอยซางคำ (ชื่อเดิมของดอยจอมแว่) เพื่อตรวจดูอาณาเขตบ้านเมืองของพระองค์ว่ามีไพร่ฟ้าประชาราษฎร์ว่าอยู่ตรงไหนบ้าง จากนั้นจึงเสด็จไปยังดอยอีกลูกหนึ่งซึ่งอยู่ตอนเหนือของลำน้ำแม่คาวด้วน และเสด็จเลียบต้นดอยด้วน (ดอยงาม) แล้วเสด็จไปยังเมืองภูกามยาว เมื่อพระองค์เสด็จถึงเมืองภูกามยาวใน เดือน ๔ ปีเดียวกัน จึงโปรดให้ขันฑเสนามาตย์ นำผู้ที่มีความรู้ในการก่อสร้างเจดีย์ พร้อมกับไพร่ฟ้าปลายแดน มาลงแรงช่วยกันสร้างพระธาตุจอมแว่ขึ้นที่ดอยซางคำ โดยได้ก่อทับรอยฟานเอาไว้ บรรจุพระเกศาธาตุ และแก้วแหวนเงินทองเอาไว้ สร้างเสร็จสมบูรณ์ในเดือน ๘ จึงได้มีพิธีการเฉลิมฉลองสมโภชพระเจดีย์เป็นเวลา ๓ วัน ๓ คืน ในสมัยเจ้าเมืององค์ต่อมา บ้านเมืองอยู่ในสภาวะไม่สงบสุขประชาชนจึงได้อพยพไปอยู่ที่อื่น ทำให้พระธาตุจอมแว่ทรุดโทรมปรักหักพังจากภัยธรรมชาติ จนในปี จ.ศ. ๑๑๙๙ (พ.ศ. ๒๓๘o ) พระยาหาญเจ้าเมืองพานคนแรกจึงได้ทำการบูรณปฏิสังขรณ์ขึ้นมาใหม่จากซากเดิม จนในสมัยพญาไชยชนะสงคราม เจ้าเมืองพานคนที่ ๓ ได้ร่วมศรัทธา ๓ หมู่ ร่วมกันบูรณาพระธาตุขึ้นมาใหม่ให้ใหญ่กว่าเดิม แล้วบรรจุพระมหาชินธาตุเอาไว้มีประเพณีสรงน้ำพระธาตุในวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๘ เหนือ

พระพุทธรูปปางประทานพร
พระพุทธจอมเกศมหามังคลานุสรณ์ ร.9
สร้างเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ราชกาลที่ 9 แห่งราชวงค์จักรี เนื่องในวโรกาสอันเป็นมหามงคล ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ 60 พรรษา ในปีพุทธสักราช 2530 และทรงครองราชครบ 50 ปี ในวันที่ 9 มิถุนายน 2539 สร้างไว้ ณ วัดพระธาตุจอมแว่ ตำบลเมืองพาน อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย
พระพุทธจอมเกศมหามังคลานุสรณ์ ร.9
สร้างเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ราชกาลที่ 9 แห่งราชวงค์จักรี เนื่องในวโรกาสอันเป็นมหามงคล ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ 60 พรรษา ในปีพุทธสักราช 2530 และทรงครองราชครบ 50 ปี ในวันที่ 9 มิถุนายน 2539 สร้างไว้ ณ วัดพระธาตุจอมแว่ ตำบลเมืองพาน อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย
การเดินทาง
สถานที่ท่องเที่ยวอำเภอพานแห่งนี้ ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 ถนน เชียงราย – พะเยา มุ่งสู่อำเภอพานข้ามสะพานข้ามแม่น้ำลาว ผ่านบ่อน้ำพุร้อนห้วยทรายขาว เข้าเขตอำเภอพาน เลี้ยวขวาเข้าถนนสายในตรงแยกวัดไชยมงคล เข้าไปประมาณ 300 เมตรจะพบทางเข้าพระธาตุจอมแว่ฝั่งขวามือ รวมรายการทั้งสิ้นประมาณ 49 กิโลเมตร
สอบถามโทร. 0 -5372- 1821 มีพระครูพิมล พิพัมนคุณเป็นเจ้าอาวาส
สถานที่ท่องเที่ยวอำเภอพานแห่งนี้ ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 ถนน เชียงราย – พะเยา มุ่งสู่อำเภอพานข้ามสะพานข้ามแม่น้ำลาว ผ่านบ่อน้ำพุร้อนห้วยทรายขาว เข้าเขตอำเภอพาน เลี้ยวขวาเข้าถนนสายในตรงแยกวัดไชยมงคล เข้าไปประมาณ 300 เมตรจะพบทางเข้าพระธาตุจอมแว่ฝั่งขวามือ รวมรายการทั้งสิ้นประมาณ 49 กิโลเมตร
สอบถามโทร. 0 -5372- 1821 มีพระครูพิมล พิพัมนคุณเป็นเจ้าอาวาส
น้ำตกปูแกง
น้ำตกปูแกง
ประวัติความเป็นมาของน้ำตกปูแกง
น้ำตกปูแกงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งในอำเภอพาน ซึ่งตั้งอยู่ในเขต อุทยานแห่งชาติดอยหลวง เป็นน้ำตกที่มีการทับถมของหินปูนที่ปนมากับน้ำ ทำให้เกิดหินงอกหินย้อย และถ้ำมากมายในบริเวณน้ำตก เป็นน้ำตกที่มีความสวยงามมากแห่งหนึ่ง มีจำนวน 9 ชั้น สถานที่ท่องเที่ยวอำเภอพานแห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณบ้านปูแกง อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย โดยปกติจะมีราษฎรในท้องถิ่นเดินทางไปเที่ยวพักผ่อนอยู่เป็นประจำ

น้ำตกปูแกงเป็นอุทยานแห่งชาติดอยหลวง สถานที่ท่องเที่ยวอำเภอพานแห่งนี้มีพื้นที่ครอบคลุมอำเภอแม่สรวย อำเภอพาน อำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย อำเภอวังเหนือ จังหวัดลำปาง และอำเภอแม่ใจ อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา มีเนื้อที่ ๗๓๑,๒๕๐ ไร่
สภาพภูมิประเทศของสถานที่ท่องเที่ยวอำเภอพานแห่งนี้เป็นเขาสูง มีดอยหลวงเป็นยอดเขาที่สูงที่สุด ประกอบด้วยป่าสน ป่าเบญจพรรณ ป่าดิบชื้น ป่าดิบแล้ง และป่าเต็งรัง ที่ยังคงอุดมสมบูรณ์มีความอุ้มน้ำสูง ทำให้ลำห้วยและน้ำตกในอุทยานฯ มีน้ำไหลตลอดปี
สถานที่ท่องเที่ยวอำเภอพานแห่งนี้(อุทยานฯ) ยังมีสัตว์ป่า เช่น หมี กวาง เก้ง เลียงผา และนกหลายชนิด เช่น นกเงือก นกพญาไฟพันธุ์เหนือ นกปีกลายสก๊อต นกกางเขนหัวขาวท้ายแดง นกศิวะปีกสีฟ้า และนกย้ายถิ่นหายาก เช่น นกกินปลีหางยาวคอสีฟ้า นกกินปลีหางยาวคอสีดำ เป็นต้น นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวอำเภอพานแห่งนี้จะมีความสมบูรณ์ของป่าที่ให้ความร่มรื่น ไม่ไกลจากที่ทำการอุทยานฯ มี น้ำตกปูแกง สูง 9 ชั้น ในยามค่ำคืนจะได้ยินเสียงน้ำตกไหลกระทบหิน
สถานที่ท่องเที่ยวอำเภอพานแห่งนี้ มีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติน้ำตกปูแกง ระยะทาง 1,500 เมตร ตามเส้นทางจะมีป้ายสื่อความหมายตามจุดต่าง ๆ ที่จะให้ความรู้แก่นักเดินป่าได้ เส้นทางเดินไม่ลาดชัน เดินสบาย และนักท่องเที่ยวที่ต้องการพักค้างแรม อุทยานฯ มีบ้านพักและสถานที่กางเต็นท์บริการ

น้ำตกปูแกงเป็นอุทยานแห่งชาติดอยหลวง สถานที่ท่องเที่ยวอำเภอพานแห่งนี้มีพื้นที่ครอบคลุมอำเภอแม่สรวย อำเภอพาน อำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย อำเภอวังเหนือ จังหวัดลำปาง และอำเภอแม่ใจ อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา มีเนื้อที่ ๗๓๑,๒๕๐ ไร่
สภาพภูมิประเทศของสถานที่ท่องเที่ยวอำเภอพานแห่งนี้เป็นเขาสูง มีดอยหลวงเป็นยอดเขาที่สูงที่สุด ประกอบด้วยป่าสน ป่าเบญจพรรณ ป่าดิบชื้น ป่าดิบแล้ง และป่าเต็งรัง ที่ยังคงอุดมสมบูรณ์มีความอุ้มน้ำสูง ทำให้ลำห้วยและน้ำตกในอุทยานฯ มีน้ำไหลตลอดปี
สถานที่ท่องเที่ยวอำเภอพานแห่งนี้(อุทยานฯ) ยังมีสัตว์ป่า เช่น หมี กวาง เก้ง เลียงผา และนกหลายชนิด เช่น นกเงือก นกพญาไฟพันธุ์เหนือ นกปีกลายสก๊อต นกกางเขนหัวขาวท้ายแดง นกศิวะปีกสีฟ้า และนกย้ายถิ่นหายาก เช่น นกกินปลีหางยาวคอสีฟ้า นกกินปลีหางยาวคอสีดำ เป็นต้น นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวอำเภอพานแห่งนี้จะมีความสมบูรณ์ของป่าที่ให้ความร่มรื่น ไม่ไกลจากที่ทำการอุทยานฯ มี น้ำตกปูแกง สูง 9 ชั้น ในยามค่ำคืนจะได้ยินเสียงน้ำตกไหลกระทบหิน
สถานที่ท่องเที่ยวอำเภอพานแห่งนี้ มีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติน้ำตกปูแกง ระยะทาง 1,500 เมตร ตามเส้นทางจะมีป้ายสื่อความหมายตามจุดต่าง ๆ ที่จะให้ความรู้แก่นักเดินป่าได้ เส้นทางเดินไม่ลาดชัน เดินสบาย และนักท่องเที่ยวที่ต้องการพักค้างแรม อุทยานฯ มีบ้านพักและสถานที่กางเต็นท์บริการ

การเดินทาง สถานที่ท่องเที่ยวอำเภอพานแห่งนี้ใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1 (เชียงราย-พะเยา) ไป 58 กิโลเมตร ถึงบ้านปูแกง บริเวณ กิโลเมตรที่ 773 เลี้ยวขวาไปอีก 9 กิโลเมตร ถึงที่ทำการอุทยานฯ
สอบถามละเอียด โทร. 053609042
น้ำตกปูแกงชั้นที่ 1 ไหลมาจากชั้นที่ 2 น้ำใสจนสามารถมองเห็นตัวปลาที่แวกวายไปมาในน้ำได้ อากาศก็เย็นสดชื่น ไม่มีมลพิษทางอากาศใดๆ หายใจเข้าเอาอากาศที่สดชื่นได้เต็มปอด
ท่องเที่ยวอำเภอพาน>>ท่องเที่ยวพาน>>เที่ยวพาน>>แหล่งท่องเที่ยวอำเภอพาน>>>>แหล่งท่องเที่ยวพาน>>แหล่งเที่ยวพาน>>สถานที่ท่องเที่ยวอำเภอพาน>>สถานที่เที่ยวอำเภอพาน>>สถานที่เที่ยวพาน>>อำเภอพาน
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)